Rupert Colville โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน ( OHCHR ) กล่าวในการบรรยายสรุปว่า “เรารู้สึกกังวลอย่างยิ่งกับการกล่าวอ้างที่อุกอาจในวิดีโอซึ่งเชื่อโดยผู้นำกลุ่ม Boko Haram ในไนจีเรียเมื่อวานนี้” ในเมืองเจนีวา“[เรา] เตือนผู้กระทำความผิดว่ามีการห้ามการค้าทาสและการเป็นทาสทางเพศ โดยเด็ดขาดในกฎหมายระหว่างประเทศ” โฆษก OHCHR เตือน “ภายใต้สถานการณ์บางอย่าง สิ่งเหล่านี้สามารถก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติได้”
เขาเสริมว่าไม่มีข้อจำกัดสำหรับอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรงดังกล่าว
รวมถึงการเป็นทาสและการเป็นทาสทางเพศ “ใครก็ตามที่รับผิดชอบอาจถูกจับกุมและดำเนินคดีได้ทุกเมื่อในอนาคต”
คำเตือนที่รุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ( ยูนิเซฟ ) รายงานการลักพาตัวเด็กหญิงอีกแปดคนในไนจีเรียในวันนี้
“นี่เป็นความขุ่นเคืองและฝันร้ายที่เลวร้ายยิ่งขึ้นสำหรับตัวเด็กผู้หญิงเอง และครอบครัวของเด็กผู้หญิงกว่า 200 คน ที่ถูกขโมยไปจากชุมชนของพวกเขาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา” หน่วยงานกล่าวในการแถลงข่าวซึ่งถือว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น่ารังเกียจ” ที่กล่าวหาว่าเด็กหญิงถูกลักพาตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ไปโรงเรียน
“ยูนิเซฟเรียกร้องให้ผู้ลักพาตัวส่งเด็กหญิงเหล่านี้กลับคืนสู่ชุมชนโดยทันที
และเราขอวิงวอนทุกคนที่มีอิทธิพลต่อผู้กระทำความผิดให้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อประกันการกลับมาของเด็กสาวอย่างปลอดภัย และนำผู้ลักพาตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” กล่าว คำสั่ง
ข้าหลวงใหญ่ Navi Pillay ประณามการลักพาตัวเด็กหญิงด้วยความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่ามีอายุระหว่าง 15 ถึง 18 ปี โดยถูกยึดด้วยปืนจ่อเมื่อวันที่ 14 เมษายน หลังจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบโบโกฮารามบุกโรงเรียนในเมืองชิบอค ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
“เด็กหญิงต้องถูกส่งตัวกลับครอบครัวโดยทันทีโดยไม่เป็นอันตราย” โฆษกของเธอกล่าว
สำหรับสิ่งที่สามารถทำได้หาก Boko Haram ไม่เคารพข้อเรียกร้องของ Ms. Pillay นาย Colville กล่าวว่าความรับผิดชอบหลักอยู่ที่ไนจีเรีย ซึ่ง “ใหญ่และแข็งแกร่ง” และเขาเน้นว่า “สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องประกันให้มากขึ้น ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อความดียิ่งขึ้นซึ่งเป็นการปล่อยตัวของเด็กผู้หญิง”
แนะนำ : รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า | รีวิวอาหารญี่ปุ่น| รีวิวที่เที่ยว | ดาราเอวี